เด็กที่ปฏิเสธเงิน 1 พันล้านเหรียญ!

ถือเป็นโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่
มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก อายุ 22 ปี
อดีตผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเว็บไซต์เครือข่ายสังคม
เฟซบุ๊ก เว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์ก เปิดเผยว่า เมื่อเขามาถึง...
หน้ามีลำกล้องปืน
เขาขับรถจากเมืองพาโลอัลโตไปเมืองเบิร์กลีย์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีพ.ศ. 2548
เพียงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เขาได้เซ็นเอกสารมูลค่า 12 เหรียญสหรัฐ
เงินทุนเสี่ยง 7 ล้านบาทสำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นของเขา
นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เมื่อถึงวัยนี้ เขาอยู่ระหว่างเดินทางไปอีสต์เบย์เพื่อเฉลิมฉลองกับเพื่อนๆ
แต่สิ่งต่างๆ เริ่มแปลกเมื่อเขาหยุดเติมน้ำมัน
เมื่อซักเคอร์เบิร์กออกจากรถและเติมน้ำมัน ก็มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวจากเงามืด พร้อมกับโบกปืนและคำราม
\"เขาไม่ได้บอกว่าเขาต้องการอะไร\" ซักเคอร์เบิร์กกล่าว \".
ฉันคิดว่าเขาเสพยาเสพติด
ซักเคอร์เบิร์กก้มหัวและไม่พูดอะไร เขาจึงกลับมาที่รถแล้วขับออกไปโดยไม่ได้รับความเสียหาย
วันนี้เขาแทบจะไม่ได้พูดถึงเรื่องตอนหนึ่งเลย
อดีตพนักงานเผยความลับ
แต่เขาก็เป็นแบบนั้น -
การผจญภัยที่ไม่คาดฝันซึ่งบางครั้งก็ชวนหวาดเสียว กลับกลายเป็นดีเกินกว่าที่ใครจะคาดเดาได้
จนถึงตอนนี้ชีวิตของซักเคอร์เบิร์กก็เหมือนบทภาพยนตร์
เด็กน้อยในซูเปอร์มาร์เก็ตประดิษฐ์ปรากฏการณ์ทางเทคนิคขึ้นเมื่อเข้าเรียนในโรงเรียนไอวีลีก -
เช่นฮาร์วาร์ด--
และได้ปล่อยคลื่นแห่งความชื่นชมยินดีออกมา
เขาถูกล้อมรอบไปด้วยวงกลมในหอพักของเขาเพื่อต้อนรับเขา
อย่างที่ทราบกันดีว่าเขาออกจากวิทยาลัย เติบโตมาพร้อมกับลูกๆ ของเขา และเปลี่ยนแปลงโลก
เพียงสามปีต่อมา เว็บไซต์ดังกล่าวก็เริ่มกลายเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจในหมู่นักศึกษา
มอบเครื่องมือให้แก่ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนกว่า 19 ล้านราย รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและพนักงานของบริษัทในกลุ่ม Fortune 500
ผู้ใช้มากกว่าครึ่งหนึ่งเข้ามาเยี่ยมชมในแต่ละวัน
เมื่อมีฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่ชัดเจนทำให้เกิดการประท้วงจากผู้ใช้ --- ประมาณ 700,000 ราย ---
สื่อทั้งเก่าและใหม่ต่างรายงานถึงการฟื้นตัวครั้งนี้
แต่ Facebook แข็งแกร่งกว่าที่เคย
ตามข้อมูลของ comScore Media Metrix ซึ่งติดตามกิจกรรมเครือข่าย ปัจจุบันเป็นเครือข่ายที่ใหญ่เป็นอันดับ 6
การค้ามนุษย์ในสหรัฐอเมริกา-
1% ของเวลาอินเทอร์เน็ตใช้ไปกับ Facebook
ComScore ยังได้ให้คะแนนตัวเลขดังกล่าวด้วย ภาพถ่ายหนึ่งภาพ-
แบ่งปันเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ตและอัพโหลดรูปภาพ 6 ล้านภาพทุกวัน
เริ่มแข่งขันกับ Google และบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่รายอื่นๆ เพื่อก้าวขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับวิศวกรรุ่นใหม่ที่มีความสามารถสูงในซิลิคอนวัลเลย์
Debra Ahoe Williamson นักวิเคราะห์อาวุโสของ EMarketer กล่าวว่าคาดว่าจะสร้างรายได้ 100 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ ---
มันคือเงิน.
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อถกเถียงกันว่า Mark Zuckerberg ตัดสินใจถูกต้องหรือไม่เกี่ยวกับยักษ์ใหญ่ที่เขาสร้างขึ้น
เมื่อปลายปีที่แล้ว บล็อกชื่อ TechCrunch ได้โพสต์เอกสารที่กล่าวกันว่าเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินมูลค่าภายในของ Facebook โดย Yahoo
เอกสารดังกล่าวคาดการณ์ว่า Facebook จะสร้างรายได้ 0 ดอลลาร์ มีรายได้ 969 พันล้านบาทในปี 2553 โดยมีผู้ใช้งาน 48 ล้านราย
รายงานอื่นๆ ระบุว่า Yahoo เสนอเงิน 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อซื้อ Facebook -
ซักเคอร์เบิร์กและหุ้นส่วนของเขาปฏิเสธ
มีข่าวลือว่า Viacom เสนอราคาเป็น 0 ดอลลาร์ 75พันล้านบาท
ทั้ง Yahoo, Viacom และ Facebook จะไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าว (พวกเขายังคงไม่แสดงความเห็น)
แต่ตั้งแต่นั้นมา ซิลิคอนวัลเลย์ก็คึกคักขึ้นมา
``มันสนุกหมดเลย'' ซักเคอร์เบิร์กซึ่งนั่งอยู่ในห้องประชุมที่สำนักงานใหญ่ของ Facebook ในเมืองพาโลอัลโตกล่าวโดยมีสีหน้าเรียบเฉย
เขาดูแปลกมากในชุดเสื้อยืดสีน้ำตาลพร้อมซิป กางเกงขายาวหลวมๆ และรองเท้าแตะอาดิดาส
เขาเดินเข้ามาในห้องและกินซีเรียลอาหารเช้าจากชามกระดาษด้วยช้อนพลาสติก
เขายังคงอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์ที่เช่าโดยมีที่นอนอยู่บนพื้นและมีเก้าอี้เพียง 2 ตัวและโต๊ะพร้อมเฟอร์นิเจอร์
(ครั้งหนึ่งเขายอมรับว่า: \"ผมทำอาหารเย็นให้แฟนสาวของฉัน \".
\"มันไม่ได้ทำงานได้ดีมากนัก
เขาเดินหรือไปที่ทำงานด้วยจักรยานทุกวัน
มหาวิทยาลัยซักเคอร์เบิร์ก
สไตล์เด็กทำให้เกิดความสงสัยมากขึ้นสำหรับผู้ที่มองว่าการตัดสินใจให้ Facebook เป็นอิสระนั้นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด
ในเวลาไม่ถึงสองปี ทั้งสองก็ครอง Web 2
MySpace ยอมรับ $0 58 พันล้านเข้าร่วมกลุ่มข่าว
YouTube มีค่าใช้จ่าย 1 เหรียญ
5 พันล้านจาก Google
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้ประกอบการที่ชาญฉลาดทุกคนจะใช้โอกาสนี้เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อตกลงเหล่านี้
บน Facebook ผีของ Friendster กำลังใกล้เข้ามา และ Friendster ก็เป็นเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่สำคัญที่สุดอันดับแรก เว็บไซต์เครือข่าย
มีรายงานว่าบริษัทได้ปฏิเสธโอกาสในการขายให้กับ Google เมื่อปี 2002 ในราคา 30 ล้านเหรียญสหรัฐ และหากชำระเป็นหุ้น มูลค่าในปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ตอนนี้ Friendster กำลังดิ้นรนอยู่บนอินเทอร์เน็ต โอ-
ทรงกลมนี้ถูกแซงหน้าโดยเว็บไซต์รุ่นต่อไปอย่างรวดเร็ว
สิ่งเดียวกันนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับ Facebook โซเชียลใหม่-
เว็บไซต์ต่างๆ เกิดขึ้นทุกวัน
Cisco ได้เข้าซื้อ PlayStation SS ซึ่งจำหน่ายแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์โซเชียลเน็ตเวิร์กให้แก่ลูกค้าองค์กร
Microsoft เป็นเวอร์ชันเบต้า
ทดสอบเว็บไซต์ที่ชื่อว่า Wallop
แม้แต่ Reuters ยังมีแผนที่จะเปิดตัว Facebook ออนไลน์สำหรับผู้จัดการกองทุนและผู้ซื้อขาย
ซักเคอร์เบิร์กก็โลภเหมือนกัน -
ถ้าอย่างนั้น เขาจะกลับมากวนใจเขาไหม คำตอบของซักเคอร์เบิร์กต่อแผนการของเขาคือเขากำลังเล่นเกมที่แตกต่างออกไป
\"ฉันมาที่นี่เพื่อสร้างอะไรบางอย่างมาเป็นเวลานานแล้ว\" เขากล่าว \".
\"ทุกสิ่งทุกอย่างนอกจากนั้นก็ทำให้เสียสมาธิ
\"เขาและเพื่อนร่วมชาติของเขาอยู่ที่หางเสือของบริษัท ---
ดัสติน มอสโควิตซ์ วัย 22 ปี เป็นเพื่อนร่วมห้องของเขาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และอดัม ดีแองเจโล วัย 23 ปี ซึ่งเป็น CTO พบกันที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
ผู้มีศรัทธาแท้จริง
พวกเขาเชื่อว่าความเปิดกว้าง ความร่วมมือ และการแบ่งปันข้อมูลที่สะท้อนอยู่ในเครือข่ายสังคมสามารถทำให้โลกเป็นสถานที่ที่ดีขึ้นได้
คุณอาจคิดว่าพวกเขาไร้เดียงสา แต่จริงๆ แล้วพวกเขาฉลาดเกินกว่าที่จะประสบความสำเร็จในแบบที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยทำได้มาก่อน
จากการดำเนินงานที่วุ่นวายที่ดำเนินการโดยสำนักงานให้เช่าช่วงในเมือง Palo Alto ตอนนี้พวกเขามีสำนักงานสีเทาเย็นตาพร้อมอาคารสองหลัง (ซึ่งจะกลายเป็นสามหลังในไม่ช้า) และจ้างงาน 200
แพ็คเกจสวัสดิการ--
ไม่รวมอาหารสามมื้อต่อวัน บริการซักรีดและซักแห้งฟรี
พวกเขายังคงปรับปรุงเว็บไซต์ที่เป็นปาฏิหาริย์ทางเทคนิคในทุกๆ ด้าน
ตอนนี้สำหรับคนที่เผชิญหน้ากับ Zuckerberg ราคา 12 เหรียญ
ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิของปีพ.ศ. 2548 เงินทุนและรายชื่อติดต่อของนักลงทุนเสี่ยงภัยรายอื่นๆ ช่วยให้ Facebook เติบโต โดยอธิบายตัวเองว่าเป็นผู้สร้างเนื้อหา
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ข่าวข้อตกลงกับ Yahoo เผยแพร่ออกไป ฐานผู้ใช้ก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกล่าวว่ามูลค่าของ Facebook ได้เพิ่มขึ้น
แต่เมื่อคนมีเงินเริ่มส่งเสริมการลงทุนของตนให้ได้รับผลกำไร ยอดขาย ---
หรือมีแนวโน้มว่าจะเป็น IPO มากกว่า -
ห่างไกลจากความคิดที่ว่า \"คนส่วนใหญ่ได้ยินคำว่า\" แฮ็กเกอร์
ซักเคอร์เบิร์กยอมรับว่าเขาเป็นแฮ็กเกอร์ -
แต่ก็ต่อเมื่อเขาแน่ใจว่าคุณเข้าใจว่าคำนั้นมีความหมายต่างไปสำหรับเขา
สำหรับเขา วัฒนธรรมแฮ็กเกอร์คือการใช้ความพยายามร่วมกันและความรู้เพื่อสร้างบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า ดีกว่า และเร็วกว่าที่บุคคลคนเดียวจะทำได้
\"ผู้คนให้ความสำคัญกับการเปิดกว้าง การแบ่งปันข้อมูลเป็นอย่างมาก และนี่คือกลยุทธ์ที่เหมาะสมและปฏิบัติได้จริงในการทำให้สิ่งต่างๆ สำเร็จลุล่วง\" เขากล่าวอธิบาย \".
เขายังเปิดตัวสิ่งที่เขาเรียกว่าแฮ็กกาธอนบน Facebook ด้วย
บางคนอาจเรียกมันว่าการระดมความคิดของวิศวกร แต่มันก็เก่าแล้ว-
พังแบบเก่าๆและ-
แฮ็คเข้า Facebook-
ผู้ร้ายก็คือ ซักเคอร์เบิร์ก
ซักเคอร์เบิร์กเติบโตมาในบ่อน้ำ ถึง-
Dobbs Ferry ในเขตชานเมืองของนิวยอร์กเป็นลูกคนที่สองจากพี่น้องสี่คนและเป็นลูกชายคนเดียวของทันตแพทย์ (ที่ไม่มีฟันผุ) และจิตแพทย์ใช่หรือไม่?
เรื่องตลกเรื่องสุขภาพอยู่ที่นี่ ).
เขาเริ่มเล่นคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ยังเด็กและเรียนรู้การเขียนโปรแกรมด้วยตัวเอง
ตอนที่เป็นนักเรียนมัธยมปลายที่ Phillips Exeter College เขาได้สร้างปลั๊กอินร่วมกับ De Angelo
เพื่อเรียนรู้การใช้เครื่องเล่น MP3 Winamp ตามนิสัยการฟังเพลงของคุณ ให้สร้างรายการเพลงที่เหมาะกับรสนิยมของคุณ
พวกเขาเปิดตัวในรูปแบบดาวน์โหลดฟรี และบริษัทใหญ่ๆ รวมถึง AOL และ Microsoft ก็โทรมา
\"โดยพื้นฐานแล้ว คุณสามารถมาทำงานกับเราได้ และเราจะยอมรับสิ่งที่คุณทำ\" ซักเคอร์เบิร์กเล่า \".
ทั้งสองตัดสินใจที่จะไปเรียนมหาวิทยาลัย แองเจโลเรียนที่สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย และซักเคอร์เบิร์กเรียนที่ฮาร์วาร์ด
ที่นี่คือสถานที่ที่เกิดการแฮ็ก
ฮาร์วาร์ดไม่ได้จัดทำแคตตาล็อกของนักเรียนพร้อมรูปถ่ายและข้อมูลพื้นฐาน ซึ่งโรงเรียนส่วนใหญ่เรียกว่าหนังสือ Facebook
ซักเคอร์เบิร์กต้องการสร้างเวอร์ชันออนไลน์สำหรับฮาร์วาร์ด แต่กล่าวว่าโรงเรียนได้กล่าวว่ามีเหตุผลหลายประการที่พวกเขาไม่สามารถรวบรวมข้อมูลนี้ได้ \".
\"ฉันแค่อยากพิสูจน์ว่ามันสามารถทำได้
\"คืนหนึ่งในคืนที่เรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 เขาได้แฮ็กเข้าไปในบันทึกสถิติของนักศึกษาฮาร์วาร์ด
จากนั้นเขาก็เปิดตัวเว็บไซต์พื้นฐานที่ชื่อว่า Facemash ซึ่งจับคู่รูปถ่ายของนักศึกษาระดับปริญญาตรีแบบสุ่มและเชิญชวนผู้เยี่ยมชมให้พิจารณาว่าเว็บไซต์ใด “ฮอตกว่า” ("ฮอตกว่า" กับเว็บไซต์นั้นๆ")
สี่ชั่วโมงต่อมา ผู้เยี่ยมชม 450 รายและภาพถ่าย 22,000 ภาพเกี่ยวกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ราซัค เบิร์ก
หลังจากสวมใส่เสื้อผ้า
ซักเคอร์เบิร์กออกจากรัฐบาลและก่อให้เกิดความวุ่นวายในมหาวิทยาลัย เขาขอโทษเพื่อนร่วมชั้นอย่างสุภาพ
แต่เขายังคงเชื่อว่าเขาทำสิ่งที่ถูกต้อง: \"ฉันคิดว่าข้อมูลนี้ควรจะพร้อมใช้งานได้
(ฮาร์วาร์ดปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
) ในท้ายที่สุด ซักเคอร์เบิร์กก็ทำงานเสร็จสิ้นรอบ ๆ รัฐบาล
เขาจัดทำเทมเพลต Facebook เพื่อให้เหล่านักเรียนกรอกข้อมูลด้วยตนเอง
โครงการใหม่กินเวลาของเขาไปมาก จนถึงสิ้นภาคเรียนแรกเขายังมีเวลาอีกสองวันสำหรับงานศิลปะของเขา
ในรอบชิงชนะเลิศประวัติศาสตร์ เขาประสบปัญหาใหญ่ เนื่องจากเขาจำเป็นต้องอภิปรายภาพ 500 ภาพจากสมัยออกัสตินให้ได้
\"มันไม่ใช่ประเภทที่คุณสามารถเข้าไปแล้วหาทางออกได้ เช่น แคลคูลัสหรือคณิตศาสตร์\" เขากล่าว \" เขาไม่ได้มีอารมณ์ขันเลย
\"ที่จริงคุณต้องเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ล่วงหน้า
เขาจึงพบกับทอม ซอว์เยอร์ เขาจึงสร้างเว็บไซต์ที่มีรูปภาพในแต่ละหน้าและมีพื้นที่ให้แสดงความคิดเห็น
จากนั้นเขาส่งอีเมลถึงสมาชิกในชั้นเรียนเพื่อเชิญชวนให้พวกเขาแบ่งปันบันทึกของพวกเขา เหมือนกับทีมนักวิจัยสเตียรอยด์ทางอินเทอร์เน็ต
\"ภายในสองชั่วโมง ภาพทั้งหมดก็เต็มไปด้วยบันทึกแล้ว\" เขากล่าว \".
\"ฉันทำได้ดีในชั้นเรียนนั้น เราทุกคนก็ทำ \"เดอะเฟซบุ๊ก
เดิมรู้จักกันในชื่อ com เปิดตัวเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547
ภายในสองสัปดาห์ นักศึกษาฮาร์วาร์ดครึ่งหนึ่งได้ลงทะเบียนแล้ว
ไม่นานนัก ประมาณสองวันอย่างมาก หนึ่งในสาม
เพื่อนร่วมห้องของซักเคอร์เบิร์ก โมโตกิตซ์ และคริส ฮิวจ์ ร่วมใช้บริการโฮสติ้งร่วมราคา 85 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน เพื่อช่วยเพิ่มฟีเจอร์และดำเนินการเว็บไซต์
นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอื่นเริ่มเข้ามาหาพวกเขาและขอใช้ Facebook ออนไลน์ของตนเอง
ดังนั้นทั้งสามคนจึงเปิดพื้นที่ใหม่บนไซต์สำหรับสถานที่เช่นสแตนฟอร์ดและเยล
รวม 30 โรงเรียน ป้าย-
ประเภทการโฆษณากิจกรรมนักศึกษาและวิทยาลัย
ธุรกิจที่เป็นเป้าหมายนำมาซึ่งเงินหลายพันดอลลาร์
\"เราแค่อยากไปแคลิฟอร์เนียในช่วงฤดูร้อน
นี่เป็นการตัดสินใจของซักเคอร์เบิร์กที่จะไปเรียนที่เมืองพาโลอัลโตพร้อมกับมอสโควิตซ์และฮิวจ์สในช่วงปลายปีที่สองของเขา
พวกเขาให้เช่าช่วงบ้านไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
จากนั้นความมั่งคั่งก็เข้ามาแทนที่
คืนหนึ่ง ซักเคอร์เบิร์กได้พบกับฌอน ปาร์กเกอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งเอกสารดังกล่าวบนถนน
โปรแกรมแชร์ Napster
ทั้งสองพบกันเพียงสั้นๆ ทางทิศตะวันออก
พาร์คเกอร์ต้องย้ายไปอยู่ที่พาโลอัลโต แต่ยังไม่มีอพาร์ตเมนต์อยู่
``จริงๆ แล้วเราแค่ปล่อยให้เขามาชนกับเรา'' ซักเคอร์เบิร์กกล่าว \".
พาร์คเกอร์เข้ามาและนำจิตวิญญาณที่ไม่หยุดยั้ง ไอเดียมากมาย โรโลเด็กซ์สุดเท่ และรถยนต์มาด้วย
Parker ยังเป็นเรื่องราวเดินได้เกี่ยวกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่
หลังจากที่ Napster ประสบปัญหาทางกฎหมายในอุตสาหกรรมดนตรีและภาพยนตร์ Parker จึงได้ช่วยเปิดตัวเว็บไซต์ Plaxo ซึ่งใช้อัปเดตข้อมูลติดต่อ
แต่เขาบอกกับทุกคนว่าเขาเปิดตัวโดย Michael Moritz ผู้เชี่ยวชาญด้านความเสี่ยงที่ Sequoia Capital ผู้สนับสนุน Yahoo, Google และ YouTube ในช่วงแรก
เซควอเอียปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น
ซักเคอร์เบิร์กยอมรับมันทั้งหมด
ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา พาร์คเกอร์ได้แนะนำซักเคอร์เบิร์กให้รู้จักกับปีเตอร์ เทียล ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่คนแรกของเขา ประธานกองทุนป้องกันความเสี่ยง Ethereum Capital และผู้ก่อตั้งร่วมของ PayPal และหุ้นส่วนการจัดการกองทุนผู้ก่อตั้ง
หลังจากที่ซักเคอร์เบิร์กเป็น 15
Thiel สนใจ Facebook อย่างเห็นได้ชัด
ปีเตอร์เป็นคนเร็ว
``มันน่ากลัวนิดหน่อยที่ต้องพูด'' แมตต์ โคห์เลอร์ เพื่อนร่วมงานของเทียลที่อยู่ในห้องนั้นกล่าว
\"แต่ Mark ยังคงสงบนิ่งและได้ข้อมูลที่เขาต้องการ
\"เมื่อสิ้นสุดการสนทนา เขาได้รับคำสัญญาว่าจะให้เงินทุนเริ่มต้น 500,000 ดอลลาร์และกับดัก ©กลายเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์เพียงแห่งเดียวในซิลิคอนวัลเลย์
ซักเคอร์เบิร์กและเพื่อนๆ ของเขาประสบปัญหาในการเริ่มต้นธุรกิจ
เมื่อฤดูร้อนใกล้เข้ามา ซักเคอร์เบิร์กเล่าถึงสุนทรพจน์ที่เขาได้ยินจากบุคคลสำคัญคนหนึ่งในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นผู้ที่ลาออกจากมหาวิทยาลัย
เมื่อคุณนำคอมพิวเตอร์
“ในด้านวิทยาศาสตร์ บิล เกตส์เข้ามาและพูดคุย” เขาย้อนความหลัง
\"เกตส์สนับสนุนให้นักศึกษาออกไปทำบางสิ่งบางอย่างเนื่องจากฮาร์วาร์ดอนุญาตให้นักศึกษาหยุดงานได้ตามต้องการ
\"ถ้า Microsoft ล้มเหลว ฉันจะกลับไปที่ฮาร์วาร์ด\" เขาพูดติดตลก \".
ซักเคอร์เบิร์กและมอสโควิทซ์สนับสนุนพวกเขาด้วยกองทุนของธีลและตัดสินใจทำตามคำแนะนำของเกตส์
Zuckerberg และทีมวิศวกรที่กำลังเติบโตดูแลไซต์ Facebook จากบริษัทสาขาต่างๆ ทั่ว Palo Alto โดยร่วมกันเขียนโค้ดบนเฟอร์นิเจอร์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
\"เราไม่เคยมีเงินเลย\" เขาเล่าพร้อมกับรอยยิ้ม \".
\"เราซื้อรถจาก Craigslist
คุณไม่จำเป็นต้องมีกุญแจ
คุณเพียงแค่ต้องเปิดสวิตช์กุญแจ
ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2547 Facebook มีผู้ใช้งานทะลุ 1 ล้านคนแล้ว
หกเดือนต่อมา ด้วยความช่วยเหลือของ Thiel ซักเคอร์เบิร์กได้เซ็นเอกสารเป็นเงิน 12 ดอลลาร์
Accel Partners เสนอเงินทุน 7 ล้าน
เขาจ้างวิศวกรใหม่กลุ่มหนึ่ง (รวมถึงสตีฟ เฉิน ซึ่งจะออกจาก YouTube ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า)
เขาย้ายบริษัทไปยังสำนักงานจริงบนถนน University Avenue ในเมือง Palo Alto
ณ ฤดูใบไม้ร่วงปีพ.ศ. 2548 มีผู้ใช้งานใช้งานจริงจำนวน 5 ล้านคนเข้าเยี่ยมชมไซต์อย่างน้อยเดือนละครั้ง
ถามคนที่ทำงานที่นั่นว่า Facebook คืออะไร คุณจะได้รับคำตอบที่แทบจะเหมือนกันเลย นั่นคือเป็นเครื่องมือโซเชียลที่ช่วยให้ผู้คนสามารถแบ่งปันข้อมูลกับผู้คนในโลกของพวกเขาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ต่างจาก MySpace ที่ใครๆ ก็สามารถเข้าชมเว็บไซต์หรือเล่นบทบาทอื่นๆ ได้ Facebook นั้นมีพื้นฐานมาจากความเป็นจริง
เครือข่ายโลกของผู้คนที่ใช้โดเมนอีเมลเดียวกันและต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกันและกัน สิ่งที่คุณแบ่งปัน--
ภาพถ่ายวันหยุด รายละเอียดการติดต่อ ภาพยนตร์เรื่องโปรด ที่อยู่ปัจจุบัน กิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย
มันขึ้นอยู่กับคุณทั้งหมด
นี่มีความหมายมากสำหรับนักศึกษาที่กระตือรือร้นที่จะพบปะผู้คนรอบข้างที่โรงเรียน แต่เว็บ 2.
ผู้สังเกตการณ์ต้องการทราบว่า Facebook เติบโตมาเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อพวกเราได้อย่างไร
หากไม่มีเหตุผลอื่น ก็ต้องทำอย่างอื่นไป นอกจากว่ากลุ่มผู้ชมเริ่มแรกมีจำนวนเพิ่มขึ้นและได้รับงานแล้ว
ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2548 Facebook เปิดให้นักเรียนมัธยมปลายใช้งานได้ โดยนักเรียนหลายคนมีพี่น้องที่อยู่ในไซต์อยู่แล้ว
ในเดือนถัดมา มีการเพิ่มฟีเจอร์รูปถ่ายลงในไซต์ และความต้องการด้านเทคนิคก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
``เราเป็นหนึ่งในไซต์ MySQL ที่ใหญ่ที่สุดในการผลิต'' Owen Van Natta วัย 37 ปี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการกล่าว \".
Open-MySQL ยอดนิยม
Van Natta อธิบายว่าซอฟต์แวร์ต้นทางเป็น "การปฏิวัติสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่" ส่วนหนึ่งเป็นเพราะช่วยให้พวกเขาไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตของ Oracle
แต่สิ่งที่ซับซ้อนคือความร้อน อย่างแท้จริง.
\"ในการประมวลผล มันจะร้อนขึ้นเมื่อสิ่งต่างๆ มีขนาดเล็กลง\" Van Natta กล่าว \".
เขาเล่าว่าเมื่อเขาเข้าร่วมบริษัทครั้งแรกในช่วงปลายปี พ.ศ. 2548 บริษัทเติบโตเร็วมากจนเกือบจะล้มละลาย
\"เรากำลังพยายามคาดการณ์ว่าเราจะมีผู้ใช้ใหม่จำนวนเท่าใด พวกเขาจะใช้ไซต์อย่างไร และเราจะต้องให้บริการอะไรบ้าง\" เขากล่าว \".
บุคลากรที่จะทำการวิเคราะห์ทั้งหมดมีไม่เพียงพอ
\"เราแค่อยากจะใส่ล้อเข้ากับรถตู้
\"เขาตกใจเมื่อไปตรวจสอบศูนย์ข้อมูล
\"มีแฟนตัวยงเลยนะ\"--
ยกมือขึ้นเพื่อระบุขนาดของเกรปฟรุต--
\"ซ่อนระหว่างเซิร์ฟเวอร์
บางช่องทางมีอุณหภูมิมากกว่า 110 องศา \"และข้อมูล-
เจ้าหน้าที่ศูนย์กำลังติดตั้งเซิร์ฟเวอร์เพิ่มเติมและยึดเข้ากับแร็คเพื่อพยายามให้ทันกับไซต์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ด้านกระจกอะคริลิกของชั้นวางเซิร์ฟเวอร์บิดเบี้ยวเนื่องจากอุณหภูมิสูง
\"ฉันเป็นเหมือนเมดี้! \" เขานึกขึ้นได้
\"เราต้องทำให้เกิดความก้าวหน้าในประเด็นนี้!
เติบโตต่อไป
เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2549 เว็บไซต์ดังกล่าวได้เปิดให้บริการแก่เครือข่ายงานแล้ว
ตั้งแต่ CIA และ IRS ไปจนถึง Macy's, McDonald's และอื่นๆ อีกมากมาย มีพนักงานมากกว่า 20,000 คน และสหรัฐอเมริกา S. นาวิกโยธิน
แม้แต่ MySpace ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นคู่แข่งของ Facebook ก็ยังมีเครือข่ายพนักงานถึง 22 คน
จากนั้นในเดือนกันยายน Facebook ได้ประกาศสิ่งที่เรียกว่า \"การลงทะเบียนแบบเปิด\": ใครก็ตามที่มีที่อยู่อีเมลที่ถูกต้องสามารถเข้าร่วมเครือข่ายระดับภูมิภาคได้
นับเป็นช่วงเวลาอันเป็นสิริมงคล -
จนกระทั่งชุมชน Facebook เติบโตขึ้น ก็เกือบจะทำลายผู้สร้างของมันไปแล้ว
ปัญหาคือตัวเลือกใหม่ที่เรียกว่าฟีดข่าวซึ่งสร้างรายงานเป็นระยะเกี่ยวกับกิจกรรมในเครือข่ายหรือกลุ่มเพื่อน
ดูเหมือนว่าจะเป็นความคิดที่ดีในตอนนั้น แต่เกิดการกบฏขึ้นในชุมชน Facebook
ผู้ใช้รู้สึกว่าข้อมูลส่วนตัวของพวกเขาถูกเผยแพร่ไปยังเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
ใช้ได้. พวกเขาทั้งหมดเผยแพร่มันต่อสาธารณะ
หรือใช้งานได้เฉพาะกับเพื่อนหรือคนที่อยู่ในเครือข่ายเท่านั้น
เฟสบุ๊คเป็นสื่อที่รวดเร็ว เคลื่อนไหว โยนมันขึ้นไปแล้วดูว่ามัน
โดยปกติแล้วจะมีการเพิ่มฟีเจอร์เพื่อสังเกตวิธีการใช้งานของผู้คนและเพิ่มการควบคุมความเป็นส่วนตัวเพิ่มเติมตามคำติชม
แต่คราวนี้ ซักเคอร์เบิร์กและทีมของเขากลับทำผิดพลาดและไม่ให้ความสำคัญกับฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวเป็นอันดับแรก
ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติใหม่ล่าสุดที่ช่วยให้แต่ละคนสามารถเริ่มปัญหาของตนเองได้ --
ผู้ใช้ที่ไม่พอใจได้ตั้งกลุ่มที่เรียกว่า \"นักเรียน\" เพื่อต่อต้านฟีดข่าวของ Facebook (คำร้องอย่างเป็นทางการของ Facebook)
ที่น่าขันก็คือ บริการสมัครรับข่าวสารเองก็เผยแพร่แคมเปญนี้ออกไป (\"เพื่อนของคุณเพิ่งเข้าร่วมกลุ่ม! \" )
ในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง มีผู้เข้าร่วมการประท้วงแล้วกว่า 700,000 คน และบล็อก Circle ได้ประกาศว่านี่คือการสิ้นสุดของ Facebook
พนักงานข่าวตั้งแคมป์อยู่หน้าสำนักงาน Facebook ราวกับว่าบริทนีย์หัวโล้นถูกขังไว้ข้างใน
\"เมื่อเราคุยกันว่าจะทำอย่างไร มีอีเมลที่ส่งมาอย่างตลกๆ\" ซักเคอร์เบิร์กกล่าว \" เขาติดอยู่ในนิวยอร์ก เพื่อปกป้องตัวเองจากการโจมตีของสื่อ
มีคนเขียนว่า 'โอเค ประมาณเที่ยงคืน เราอยากออกเดินทางแล้ว'
แต่เราไม่สามารถมองผ่านมู่ลี่ได้เพราะว่ามีคนบันทึกเราเอาไว้
ฉันจ่าย 50 เหรียญเพื่อเปลือยกาย
ซักเคอร์เบิร์กโพสต์จดหมายเปิดผนึกถึงผู้ใช้ผ่านทางบล็อกที่โรงแรมเดอะนิวยอร์ก
\"เราทำเรื่องนี้พังจริงๆ\" เขาเขียน \".
\"เมื่อเราเปิดตัวข่าวและมินิ
เรากำลังพยายามมอบข้อมูลที่หลากหลายเกี่ยวกับโลกโซเชียลของคุณให้กับคุณ
แต่กลับกัน เราไม่ได้อธิบายฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้ดีนัก และยิ่งแย่ลงไปอีกในการทำให้คุณควบคุมฟีเจอร์เหล่านั้นได้
เพื่อเพิ่มคุณสมบัติความเป็นส่วนตัวที่ดีขึ้น วิศวกรของเขาทำงานสามวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ในที่สุดพายุก็ผ่านไป และตอนนี้ซักเคอร์เบิร์กก็อ้างว่าข่าวนี้ได้รับผลกระทบจริงๆ
\"เมื่อผู้คนสามารถควบคุมและรู้วิธีใช้มันแล้ว พวกเขาก็ชอบรายงานข่าว\" เขากล่าว \"
\"จริงๆ แล้ว เรามีข่าวสารในหนึ่งวันสำหรับผู้ใช้ 19 ล้านคน มากกว่าสื่ออื่นๆ ทั้งหมด
\"Facebook ยังคงติดอยู่ในข้อพิพาทที่ยืดเยื้อต่อไปอีก: เมื่อเว็บไซต์เปิดตัวครั้งแรก นักศึกษาฮาร์วาร์ดอีก 4 คนได้ยื่นฟ้องโดยอ้างว่าซักเคอร์เบิร์กขโมยความคิดของพวกเขาไป
ผู้ต้องหาของ Facebook ยื่นฟ้องแย้ง
คดียังดำเนินต่อไปตามข่าวประชาสัมพันธ์
) \"เราเป็นส่วนตัวและเราไม่พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างเปิดเผย
\"เมื่อสิ้นสุดวันในห้องประชุม Facebook ซักเคอร์เบิร์กหลีกเลี่ยงที่จะถามคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของบริษัทอย่างสุภาพ
เมื่อฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา Facebook ได้รับการฉีดเงินอีกครั้งจากกองทุนร่วมทุน ---
25 ล้านเหรียญสหรัฐ นำโดย Greylock Partners และ Meritech Capital
Accel และ Thiel ก็ได้ลงทุนซ้ำอีกครั้งเช่นกัน
แต่การสนทนากับทีมผู้บริหารชี้ให้เห็นชัดเจนว่า Facebook ไม่ได้ดำรงอยู่ด้วยเงินสดจากเงินทุนเสี่ยงอีกต่อไปอย่างน้อยก็ด้วยเงินสด
เมื่อฉันได้พบกับ Kohler ซึ่งเข้าร่วมในตำแหน่งรองประธานฝ่ายกลยุทธ์และการปฏิบัติการทางธุรกิจของ Facebook ฉันถามทันทีว่ารายงานที่อ้างรายได้ของบริษัทนั้นถูกต้องหรือไม่
ตอนแรกเขาก็ตะโกน
\"มันขึ้นอยู่กับว่าคุณมองการบัญชี GAAP อย่างไร
แต่แล้วเขาก็ยอมรับว่า: \"การเติบโตของเรานั้นรวดเร็วมาก เราระดมทุนเพื่อการเติบโตของบริษัทผ่านรายได้และการดำเนินธุรกิจ ไม่ใช่การจัดหาเงินทุน
\"ธุรกิจเหล่านี้ใหญ่โตมาก.
Motogitz ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมของ Facebook อธิบายว่า นอกเหนือจากพนักงาน 200 คนและพื้นที่สำนักงานชั้นดีใน Valley แล้ว Facebook ยังมีเซิร์ฟเวอร์อีกหลายแห่ง
บริษัทจะลงทุนในสิ่งที่ COO Van Natta เรียกว่า \"เงินหลายล้านดอลลาร์\" ในโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม
แล้ว Facebook หาเงินจากการโฆษณาและสปอนเซอร์ได้อย่างไร?
Apple ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนในช่วงแรก ได้สนับสนุนเว็บไซต์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ iTunes
นอกจากนี้ JPMorgan Chase และ Southwest Bank ยังจ่ายเงินสำหรับโครงการที่คล้ายคลึงกันอีกด้วย
\"แผ่นพับ\" เป็นโฆษณาแบบออนไลน์ที่นักเรียนใช้เพื่อส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ และยังเป็นแหล่งรายได้เล็กๆ น้อยๆ อีกด้วย
มีนักเรียนใหม่. แต่-
ธุรกิจโฆษณาในท้องถิ่นกำลังเติบโต
อย่างไรก็ตาม เงินจำนวนมากมาจากการโฆษณา
ยักษ์ใหญ่ซอฟต์แวร์จะวางโฆษณาแบนเนอร์บนเว็บไซต์ภายในปี 2011
ซึ่งสะท้อนถึงข้อตกลงที่ MySpace ลงนามกับ Google เมื่อปีที่แล้ว
(มีรายงานว่า MySpace ได้รับ $0. 9 พันล้านในสามปี
Facebook ยังไม่ได้เผยแพร่มูลค่าของโครงการ และไม่มีฝ่ายใดแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเงื่อนไขเหล่านี้
) Facebook เพิ่งลงนามข้อตกลงกับ Comcast เพื่อสร้างสถานการณ์และออกอากาศออนไลน์ตามสถานการณ์ของผู้ใช้
สร้างเนื้อหาในรูปแบบวิดีโอ
ซีรีส์เรื่องนี้มีชื่อว่า \"Facebook diary\" จะออกอากาศทาง Facebook และ Ziddio
วิดีโอของ Comcast
อัพโหลดเว็บไซต์รวมถึงวิดีโอผ่านบริการ Comcaston-demand
\"เอาล่ะ\" ซักเคอร์เบิร์กกล่าว \"คุณมี Viacom จากกลุ่มข่าว และ Yahoo.
ก็ลองเปรียบเทียบแล้วคิดดู เราเป็นบริษัทเทคโนโลยีแต่เราเป็นสังคม
มันทำงานอย่างไรสำหรับเรา \" ตามที่ทุกคนจำได้จากถุงเท้าที่น่าตื่นเต้น --
วันหุ่นกระบอกสำหรับเว็บ 1.
0. คุณคิดไอเดียขึ้นมา สร้างมันขึ้นมาในบริษัท และพัฒนากลยุทธ์ในการออก ---
นี่คือกุญแจสำคัญในการยกระดับธุรกิจและสร้างผลตอบแทนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
มอบโอกาสให้กับนักลงทุนด้านเงินและการทำงานหนักของพนักงานของพวกเขา
มีสูตรพื้นฐานสองประการ: ขายให้กับบริษัทที่ใหญ่กว่า หรือเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก
จากการหารือทั้งหมดเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าและการซื้อกิจการ ไม่ต้องพูดถึงแรงกดดันต่อนักลงทุนและพนักงานที่มีออปชันหุ้น ซักเคอร์เบิร์กต้องพิจารณาลาออกใช่หรือไม่
\"นี่เป็นการใช้กรอบความคิดบางประการในการคิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ\" เขากล่าว \" เขาคลายความเครียดหลังจากการประชุมตลอดทั้งวัน
\"ถ้าคุณขายบริษัทของคุณ นั่นหมายถึงทางออก
นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราคิด
เขาหยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถอนหายใจและพูดว่า "เอาล่ะ Viacom แห่ง News Corp." และ Yahoo.
แน่นอนว่าคุณจะเปรียบเทียบและคิด เว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์เครือข่ายสังคม แต่เราเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยี
เขาบอกว่านั่นหมายถึงอะไรสำหรับเรา “บริษัทมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมและวิศวกรรม และความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ของผู้ใช้
เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่การสร้างบริษัทสื่อ
นี่ไม่ใช่การขายภาพยนตร์
มีวิธีที่คุณสามารถทำสิ่งนี้ได้ แต่ตอนนี้เราเน้นไปที่การสร้างสิ่งนี้
หากคุณดูข้อมูลของเราแล้ว ถือเป็นการตัดสินใจที่ดีจนถึงตอนนี้
\"แต่ในที่สุด\" ในบางจุดก็อาจสมเหตุสมผลที่จะทำบางสิ่งบางอย่าง
แต่เราไม่ได้รีบร้อน
เบาะแสเกี่ยวกับแผนการในอนาคตของบริษัทมาจากนักลงทุนรายแรกอย่าง Thiel ซึ่งเคยกำกับดูแล Zuckerberg ในการเจรจาซื้อกิจการเมื่อปีที่แล้วและมีข่าวลือต่างๆ มากมาย
Thiel ยืนยันว่าประเด็นสำคัญคือ "มันมีค่ามากกว่าใครๆ ภายนอก"
เขาชี้ให้เห็นว่าฐานผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นและจำนวนการดูเพจเป็นหลักฐาน
ผู้ที่เข้าใจอำนาจคือผู้ใช้
คนที่ต้องการบริษัทไม่เข้าใจอำนาจและไม่ต้องการจ่ายเงินเพียงพอสำหรับมัน
แล้วเราก็ไม่ขาย.
เขากล่าวเสริมว่า: \"ผมคิดว่าการขาย MySpace นั้นเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่"
การขาย Flickr ให้กับ Yahoo ถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่
เขาโต้แย้งว่าแนวคิดที่ดีกว่าคือการมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยี ซึ่งเขาบอกว่าเป็นพลังสำคัญสำหรับทีมงาน Facebook และช่วยให้บริษัทเติบโตต่อไป
เขาชี้ให้เห็นรายการเกณฑ์มาตรฐานที่ทุกคนอยากเห็น
\"ปีนี้เราจะมีผู้ใช้งาน 35 ล้านคนได้ไหม \" นี่จะเป็นกุญแจสำคัญ
\"ถ้าเราเห็นเรื่องนี้ในพื้นที่โรงเรียนมัธยมมันจะสำคัญมาก
\"แต่เทียลรู้ว่านาฬิกาที่กำลังเดินนั้นถูกกำหนดโดยกฎของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
\"เมื่อเราพบผู้ถือหุ้นครบ 500 รายแล้ว เราจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงินทั้งหมด\" เขากล่าว \".
(พนักงาน Facebook เป็นเจ้าของหุ้นในเงินเดือนของตนเอง
) บริษัทส่วนใหญ่เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในเวลานั้น
\"แต่ความลำเอียงของเราในปัจจุบันคือจะไม่ทำอย่างนั้นโดยเร็วที่สุด
\"สิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปได้มากที่สุดคือเวอร์ชันของ Facebook ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอาจเลียนแบบชาวดัตช์ผู้แปลกประหลาด --
Google ได้ยื่นประมูล IPO ในปี 2004
มันดูเป็นธรรมชาติ;
Facebook ชื่นชมความละเอียดอ่อนแบบเรียบง่ายของการออกแบบของ Google การเน้นที่วิศวกรรม และอย่างน้อยปรัชญา \"ไม่มีความชั่วร้าย\" ในการให้ข้อมูลเชิงทฤษฎีสำหรับธุรกิจของตน
ที่สำคัญที่สุด หากจัดการอย่างเหมาะสม IPO จะมีผู้ก่อตั้งที่คอยควบคุม เช่นเดียวกับ Sergey Brin และ Larry Page ของ Google
IPO ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับ Meritech Capital Partners ซึ่งเข้าร่วมการระดมทุนรอบสุดท้ายของ Facebook เมื่อปีที่แล้ว
\"แน่นอนว่าบริษัทส่วนใหญ่ของเราต้องผ่านกระบวนการสภาพคล่องของตลาดหลักทรัพย์\" Paul Madera ผู้ก่อตั้ง Meritech กล่าว \".
\"วันนี้ตลาดหลักทรัพย์ดูเหมือนจะจ่ายเงินมากกว่าผู้ซื้อ
\"หาก Facebook ได้รับข้อเสนอใหญ่โตมาก พวกเขาจะต้องพิจารณาเรื่องนี้\" เขากล่าว
\"แต่ในปัจจุบันข้อเสนอที่มีมูลค่าประมาณพันล้านดอลลาร์นั้นถือว่าต่ำมาก
แต่ซักเคอร์เบิร์กยืนกรานว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
\"นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มากหากคุณเปิดตัวสู่สาธารณะ ---
มีกฎเกณฑ์และสิ่งต่างๆ มากมาย ดังนั้นมันจึงไม่ใช่สิ่งที่คุณทำได้ง่ายๆ
\"ขณะนี้บริษัทคาดว่าจะเพิ่มจำนวนทีมวิศวกรเป็นสองเท่าในปีนี้ (ขั้นตอนแรกในการดูแอป Facebook)
Com/job_puzzles) และลูกค้า 50 ราย
กลุ่มบริการซึ่งนำโดย Tom LeNoble ดำเนินธุรกิจบริการระดับโลกสำหรับ Palm ของ Walmart และการบริการลูกค้า com และ MCI
ผู้แทนของเขาส่วนใหญ่มาจากระดับบน
มหาวิทยาลัยชั้นวาง
(ตามการประมาณการของฉัน มีค่าธรรมเนียมการสอนบน Facebook ที่เกี่ยวข้องกับการบริการลูกค้ามูลค่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ
) การหลั่งไหลเข้ามาของผู้ใช้รายใหม่-
100,000 ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการลงนามเมื่อวันสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์
ตลาดมหาวิทยาลัยในแคนาดาและสหราชอาณาจักรเติบโตขึ้นเกือบ 30% ต่อเดือน (ตามรายงานของแท็บลอยด์อังกฤษ เจ้าชายแฮรี่และแฟนสาวเป็นผู้ใช้ Facebook) ปัจจุบันในบรรดาผู้ใช้ทั้งหมด เกือบ 28% ของผู้ใช้ไม่ได้อยู่ในสหรัฐอเมริกา
ไซต์นี้ค่อยๆ เพิ่มกลุ่มผู้สูงอายุอย่างช้าๆ แต่แน่นอน โดยมีผู้ใช้ 3 ล้านคนที่มีอายุระหว่าง 25 ถึง 34 ปี 380,000 คนที่มีอายุระหว่าง 35 ถึง 44 ปี และผู้ใช้ที่เป็นผู้บุกเบิก 100,000 คนมีสิทธิ์ในปัจจุบัน
ด้วยข้อมูลนี้คุณสามารถเห็นสาธารณะได้อย่างแน่นอน
นักลงทุนในตลาดมีความตื่นเต้น สามสิบ-
หกเดือนก่อน ซักเคอร์เบิร์กอยู่ชั้นปีที่ 2 และกำลังท่องเที่ยวไปทั่วแคลิฟอร์เนียในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน
ตอนนี้เขาอนุมัติทุกอย่างตั้งแต่พนักงานใหม่ไปจนถึงกิจกรรมของพันธมิตรโฆษณาแต่ละรายและเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่มาก
จัดตั้งบริษัท
ซักเคอร์เบิร์กยังได้รับเชิญไปพูดที่เมืองดาวอสในปีนี้ด้วย
\"เยี่ยมมาก\" เขากล่าวและวางแผนโน้มตัวไปข้างหน้า \"ฉันใส่รองเท้า